Home » เรียนรู้ก่อนใคร! วิธีการรับมือกับ AI ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของคุณ
1.วิธีการรับมือกับ AI ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของคุณ

เรียนรู้ก่อนใคร! วิธีการรับมือกับ AI ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของคุณ

5 views

13 กันยายน 2567

ความสามารถของ AI ที่เปิดตัวมาแล้วกว่า 2 ปี ได้ถูกนำมาใช้งานโดยองค์กรต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ชัดเจนขึ้นในหลายด้าน ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อการทำงานของพนักงานในเร็วๆ นี้ คำถามคือเราจะพัฒนา ปรับปรุง และรับมือกับปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้อย่างไร?

ตั้งแต่ที่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT สู่สาธารณะเมื่อสองปีที่แล้ว ก็ได้เกิดการถกเถียงในหลายมุมมองเกี่ยวกับประสิทธิภาพและการใช้งานจริงๆ ของ AI ซึ่งยังคงมีข้อสงสัยที่ต้องหาคำตอบ

ปัจจุบัน AI ได้พัฒนาขึ้นและเริ่มปรับตัวเข้ากับไลฟ์สไตล์ เศรษฐกิจ และตลาดแรงงานทั่วโลก ทำให้มีผู้ใช้งาน AI มากกว่าหลายล้านคน และสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือ AI ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว แต่ยังคงมีบางคำถามที่ต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลายๆ คำถามก็ได้รับคำตอบแล้ว และ AI ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานได้อย่างถาวร โดยเฉพาะในบางรูปแบบงานที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

AI ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและการว่าจ้างงานอย่างไรบ้าง? รายงานล่าสุดจาก DeVry University ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และผลกระทบต่ออนาคตของการทำงาน ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้จำเป็นสำหรับมืออาชีพทุกคนที่จะต้องรับรู้และเตรียมพร้อม เนื่องจาก AI มีศักยภาพในการกำหนดทิศทางของงานในอนาคตอันใกล้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

2.วิธีการรับมือกับ AI ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของคุณ

AI กำลังเปลี่ยนแปลงการสรรหาบุคลากรและการจัดการผลการปฏิบัติงาน

ปัจจุบัน นายจ้างเริ่มหันมาใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานและการสรรหาบุคลากรมากขึ้น โดยประมาณ 44% ขององค์กรใช้ AI ในการติดตามและวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ประมาณหนึ่งในสามของนายจ้างยังใช้ AI เพื่อระบุช่องว่างทักษะ แนะนำวิธีแก้ไข และปรับปรุงการสื่อสารภายในองค์กรให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อีกทั้ง มากกว่าสองในสามของนายจ้างยังใช้ AI เพื่อช่วยในกระบวนการประเมินการสมัครงาน

การใช้ AI ในงานสรรหาและประเมินผลการปฏิบัติงานนี้มีผลต่อตัวคุณอย่างไร? เนื่องจากนายจ้างส่วนใหญ่ใช้ AI ในการตรวจสอบการสมัครงาน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาตนเองเพิ่มไปข้างหน้า ตัวอย่างเช่น ทำการบ้าน และทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือยอดนิยมที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้เพิ่มขึ้น ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน และทำให้การสมัครงานของตัวเองมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสผ่านการคัดกรองเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร การเรียนรู้และนำ AI มาปรับใช้ในการทำงานขององค์กร สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงพัฒนาการสื่อสารและการจัดการผลการปฏิบัติงานภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและมูลค่าการจ้างงาน

ข้อมูลเชิงลึกประการที่สองเปิดเผยว่า คนงานและนายจ้างจำนวนมากมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับ AI ในแง่ของความมั่นคงในการทำงาน ในช่วงเริ่มแรกที่ ChatGPT และปัญญาประดิษฐ์เริ่มได้รับความนิยม หลายคนกังวลว่า AI จะทำให้เกิดการเลิกจ้างงานจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่า AI จะมีส่วนทำให้พนักงานบางส่วนถูกเลิกจ้างในปี 2566 และ 2567 แต่ AI กลับมีบทบาทเชิงบวกต่อแรงงานเช่นกัน โดยสร้างงานใหม่ที่มีมูลค่าการว่าจ้างเพิ่มขึ้นถึง 47% และสร้างหมวดหมู่งานใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

จากผลการวิจัยพบว่า พนักงานประมาณหนึ่งในสี่เชื่อว่า AI จะช่วยเปิดโอกาสในการทำงานมากขึ้น และเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจโดย DeVry University วางแผนที่จะเรียนรู้ทักษะ AI ใหม่ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทงานที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้น

นอกจากนี้ การสำรวจยังระบุว่า 54% ของพนักงานเห็นว่า AI จะทำให้งานของพวกเขาง่ายขึ้น ขณะที่เพียง 9% กังวลว่า AI จะส่งผลเสียต่ออาชีพของพวกเขา และมีเพียง 1 ใน 5 ที่รู้สึกไม่มั่นคงกับงานของตน

การเข้ามาของ AI อาจทำให้บางคนรู้สึกไม่มั่นคงกับงานที่ทำอยู่เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การพัฒนาทักษะใหม่ โดยเฉพาะทักษะด้าน AI และเทคโนโลยี จะช่วยลดความกังวลนี้ลงได้ นายจ้างในปัจจุบันมองว่าพนักงานที่มีทักษะด้าน AI เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ผ่านหลักสูตรระยะสั้น เช่น หลักสูตรจาก Google และ Coursera อาจช่วยให้คุณมั่นคงในเส้นทางอาชีพในอนาคตได้มากขึ้น

3.วิธีการรับมือกับ AI ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของคุณ

การฝึกอบรมเกี่ยวกับ AI เป็นสิ่งจำเป็น

DeVry University ได้ทำการวิจัยและพบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความรู้ด้าน AI โดยรวมว่ามากกว่า 80% ของนายจ้างกล่าวว่าพวกเขาเข้าใจว่า AI สามารถทำอะไรให้กับองค์กรของพวกเขาได้ในขณะที่ “75% ของพนักงานรายงานว่าพวกเขาเข้าใจว่า AI สามารถทำอะไรให้พวกเขาในที่ทำงานได้บ้างนอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า “42% ของนายจ้างกล่าวว่าพวกเขาไม่มั่นใจว่าองค์กรของพวกเขามีความเข้าใจที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

ข้อมูลนี้หมายความว่าอย่างไร? แม้ว่าทุกคนจะทราบว่าการฝึกอบรม AI เป็นเรื่องสำคัญ แต่การรับรู้ถึงประโยชน์เชิงบวกของปัญญาประดิษฐ์ในที่ทำงานยังไม่ได้รับการประยุกต์ใช้อย่างเต็มที่

เหตุผลหนึ่ง คือ นายจ้างเกือบครึ่งหนึ่งไม่ทราบวิธีการฝึกอบรมพนักงานในการใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาระยะหนึ่งแล้ว แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีอย่าง ChatGPT ได้รับความนิยมมาเกือบสองปีแล้วก็ตาม

ปัจจุบัน การใช้ AI อย่างเต็มที่ยังคงเป็นความท้าทาย และจนกว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข ทั้งนายจ้างและพนักงานควรลงทุนในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะ AI ด้วยตนเอง การฝึกฝนดังกล่าวจะช่วยให้คุณเพิ่มมูลค่าให้กับงานและสร้างศักยภาพในการเพิ่มรายได้ได้อย่างมาก

ดังนั้น ประเด็นเกี่ยวกับ AI ไม่ใช่การตั้งคำถามว่า AI จะแย่งงานของเราหรือไม่อีกต่อไป แต่เป็นการตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการทำงานของเราอย่างไร และเราสามารถทำอะไรเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก AI ในอาชีพของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

แหล่งที่มา : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2814235

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลที่มีประโยชน์ด้านการทำงานในอุตสาหกรรม สามารถหาข้อมูลได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย