มารู้จักกับ สีของสายไฟ ในแบบต่างๆ สีของสายไฟต่างๆ มีความหมายว่าอย่างไร
ในวงการการเดินสายไฟ สีของสายไฟ มีบทบาทสำคัญในการรับรองความปลอดภัย และ ประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าทุกๆ ระบบด้วยการกำหนดมาตรฐานสีที่ใช้สำหรับสายไฟประเภทต่างๆ ช่างไฟฟ้าและช่างเทคนิคสามารถระบุวัตถุประสงค์และหน้าที่ของสายไฟแต่ละเส้นได้อย่างง่ายดาย ลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดระหว่างการติดตั้งและการบำรุงรักษาหรือซ่อมแซม
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงความสำคัญของสีสายไฟ ความหมาย และมาตรฐานสากลที่สำคัญที่กำหนดการใช้งาน
ความสำคัญของสีสายไฟ
สีของสายไฟเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากและจำเป็นที่จะต้องถูกปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่กระบวนการผลิตสายไฟ ไปจนถึงการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในระดับครัวเรือนหรือระดับอุตสาหกรรม การที่สีของสายไฟมองเห็นไม่ชัดเจน หรือใช้งานผิดวัตถุประสงค์ก็มีอากสสร้างอันตรายได้มากมายนับไม่ถ้วน
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ สีของสายไฟจึงสำคัญและห้ามละเลยเด็ดขาด
- ความปลอดภัย : การต่อสายไฟอย่างไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การลัดวงจร ไฟไหม้ และสถานการณ์อันตรายอื่นๆ สีของสายไฟช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้โดยช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถระบุและเชื่อมต่อสายไฟได้อย่างถูกต้อง
- การแก้ไขปัญหา : เมื่อเกิดปัญหาทางไฟฟ้า สีของสายไฟจะช่วยในการวินิจฉัยปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเมื่อคุณทราบการทำงานของสายไฟแต่ละเส้น ก็จะทำให้การซ่อมแซมนั้นง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มีโอกาสผิดพลาดน้อยลง
- การบำรุงรักษา : สีของสายไฟทำให้งานบำรุงรักษาง่ายขึ้น ช่วยให้ช่างไฟฟ้าสามารถระบุและเปลี่ยนสายไฟที่เสียหายได้อย่างรวดเร็ว
สีของสายไฟที่พบเห็นได้บ่อยและเป็นมาตรฐานสากล
แม้ว่ารหัสสีของสายไฟอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเทศและมาตรฐานด้านไฟฟ้าของแต่ละประเทศ แต่ก็มีสีหลายๆ สีเลยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น
- สีดำ : โดยทั่วไปใช้สำหรับสายไฟที่มีอุณหภูมิค่อนข้างร้อนหรือสายไฟที่มีไฟฟ้า สายไฟสีดำจะนำไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเต้าเสียบ
- สีแดง : สีแดงมักใช้สำหรับสายไฟรองในการติดตั้ง 220 โวลต์และขาสวิตช์
- สีขาว : สายสีขาวมักจะทำหน้าที่เป็นสายกลาง ส่งคืนกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์กลับไปยังแหล่งพลังงาน
- สีเขียวหรือสีเขียวแถบสีเหลือง: สีเหล่านี้หมายถึงสายดิน ซึ่งป้องกันระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์จากไฟกระชากที่เป็นอันตรายต่อทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและตัวผู้ใช้งาน และเป็นเส้นทางให้ไฟฟ้าลงไปยังใต้ดินและไม่สร้างอันตรายในกรณีที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
มาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ สีของสายไฟ
- International Electrotechnical Commission (IEC) : IEC ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานระดับโลกสำหรับการเดินสายไฟฟ้า รวมถึงสีของสายไฟ ในระบบ IEC จะใช้สายสีน้ำเงินสำหรับสายที่เป็นกลาง สายสีน้ำตาลสำหรับกระแสไฟฟ้า และสีเขียวที่มีแถบสีเหลืองสำหรับการต่อลงดิน
- National Electric Code (NEC) : ใช้เป็นหลักในสหรัฐอเมริกา NEC ระบุสีดำ สีแดง และบางครั้งอาจจะเป็นสีน้ำเงินสำหรับสายไฟร้อน สีขาวสำหรับสายกลาง และสีเขียวสำหรับสายดิน
บทสรุป
การทำความเข้าใจรหัสสีของสายไฟเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการแก้ไขปัญความปลอดภัยระบบไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่า การทำงานกับไฟฟ้าจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแต่สิ่งที่สำคัญพอๆ กับการดูสีของสายไฟก็คือเรื่องของความปลอดภัย
อย่าลืมสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE ที่จำเป็นระหว่างปฏิบัติงาน หากยังไม่มีความรู้หรือไม่มั่นใจที่จะทำงานกับไฟฟ้าควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำหรือให้ช่างเป็นคนจัดการงานเหล่านั้น เพราะการปฏิบัติงานกับไฟฟ้าโดยไม่มีความรู้นั้นคือสิ่งที่อันตรายที่สุด และอาจจะก่อให้เกิดผลเสียมากมาย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ระเบิด ไฟไหม้ ซึ่งก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้